คำกลอน
จงอยู่เพื่อ สรรค์สร้าง
จงอยู่อย่าง สร้างสรรค์
จงอยู่เพื่อ แบ่งปัน
จงอย่าหวั่น ไม่ผันแปร
อย่าท้อแท้ กับชีวิต ที่ผิดหวัง
ฟ้ามืดยัง มีสว่าง กลางคืนหาย
แม้วันนี้ มีปัญหา อย่างมากมาย
ใช่เลวร้าย สบายดี มีแน่นอนฯ
หลายปัญหา เกิดจากคน อดทนสู้
เกิดมาอยู่ คู่กับคน อดทนไหว
เพราะทุกคน ต่างความคิด ต่างจิตใจ
เราอยากได้ เขาอยากเด่น เห็นมากมี
ในบางช่วง ของชีวิต ก็ผิดหวัง
ในบางครั้ง ของชีวิต จิตสับสน
ในบางครา ของชีวิต คิดกังวล
ในบางคน คงประสบ พบเหมือนกัน
ต้นไม้ที่สูง เพียงฟ้า
ล้วนเคยหญ้า เพียงดิน
พญาเยี่ยว ที่โผบิน
ล้วนเป็นนก ที่เคยหัดบินทั้งนั้นฯ
จงจำไว้ชายใดมาพูดเกี้ยว
อย่าเพิ่งเกรี้ยวโกรธาว่าหยาบหยาม
เมื่อไม่รักก็อย่าตอบให้ชอบความ
ให้มันตามพอมันเหนื่อยเดี๋ยวเฉื่อยเอง
อันคำคมลมชายนั้นร้ายสุด
ชอบเยื้องหยุดใจหญิงให้พิงหา
ชอบพูดเกี้ยวเลี้ยวลุดฉุดเวลา
ดั่งอาชาคึกคะนองลำพองตน
แค่ดอกไม้ริมทางเขาร้างทิ้ง
กลายเป็นหญิงอัปยศหมดคุณค่า
มิอาจเอาออกขายได้ราคา
เป็นสินค้ามือสองคนมองเมิน
ชายกี่คนรู้คิดรับผิดชอบ
เกียรติเป็นกรอบกั้นตนพ้นมัวหมอง
แม้เขาคือคนหนึ่งที่พึงปอง
เธอก็ต้องมีความหมายในสายตา
หวังลูกแทนโซ่ทองคล้องใจพ่อ
จะเชื่อมต่อถึงแม่ได้แน่หรือ
คำว่ามารหัวขนคนเล่าลือ
ควรเป็นสื่อสอนใจให้เธอตรอง
และอย่าหวังว่านั้นสร้างพันธะ
อย่าคิดนะเสน่ห์เธฮเขาเผลอหลง
สัญชาติเสือเหลือวิสัยให้ซื่อตรง
แล้วก็คงออกลายเมื่อปลายมือ
ก่อนเธอเคลิ้มเธอคล้อยถ้อยคำรัก
ควรตระหนักนิยามความแปรผัน
นิยายรักหวานล้ำเขารำพัน
อาจไม่ทันถึงปีที่จบลง
ก่อนที่เธอจะทอดกายให้ชายชิด
ผ่านการคิดใคร่ครวญถี่ถ้วนไหม
หรือเป็นเพียงเพราะเธอก็เผลอใจ
เมื่อความใคร่คุคลั่งลืมยั้งมัน
คิดดูเถิดถ้าใคร ไม่อยากตก
จงรีบยก ใจตนรีบขวนขวาย
ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย
ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอยฯ
ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า
ใครมีเข้า ควรเรียกว่าผีสิง
เพราะพูดผิดทำผิด จิตประวิง
แต่ในสิ่งนำตัว กลั้วอบาย
ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ
ถ้ามีครบ ควรเรียกมนุสสา
เพราะทำถูก พูดถูกทุกเวลา
เปรมปรีดา คืนวันสุขสันต์จริง
เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง
เหมือนหนึ่งยูงมีดีที่แววขน
ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน
ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา
มองโดยนัย ที่มันสอน จะถอนโศก
มองเยกโยก มันไม่สอน ร้อนเป็นบ้า
มองไม่เป็น โทษผีสาง นางไม้มา
มองถูกท่า ไม่คว้าทุกข์: มองถูกจริง!