คำกลอน
มองทุกข์สุข ก็จงจ้อง มองให้ดี
มองว่าเป็น อย่างที่ คนเราหวัง
มองว่าเป็น ตามปัจจัย ให้ระวัง
มองจริงจัง ก็จักเห็น เป็นธรรมดา
มองอะไร มองให้เห็น เป็นครูสอน
มองไม้ขอน หรือมองคน มองค้นหา
มองเห็นความ เสมอกัน มีปัญญา
มองเห็นว่า ล้วนมีพิษ: อนิจจัง
เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก
จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
ด้วยสองมือสองเท้าที่ก้าวมั่น
จะสร้างฝันด้วยแรงอันแข็งขืน
จะคว้าจันทร์งาม ยามค่ำคืน
จะหยัดยืนปีนไปให้ถึงดาว
แต่ละคนต่างก็มีฝัน
จะต่างกันก็ตรงที่จุดหมาย
สิ่งที่ฝันใช่ว่าจะไปถึงได้ง่ายดาย
ยังต้องการกำลังใจจากหลายคน
อนาคตยังอีกไกล
ฝันไว้อย่างไรขอให้ไปให้ถึง
ในยามท้อยังมีเราอีกคนหนึ่ง
เราคนนี้ซึ่งคอยให้กำลังใจ
ถ้าล้มจงลุกอย่าทุกท้อ
จงสานต่อความฝันอันยิ่งใหญ่
แม้วันนี้ไม่มีสิทธ์พิชิตชัย
ก็ยังมีวันใหม่ให้ท้าทาย
ขอชีวิตงดงามตามที่ฝัน
ขอทุกวันเป็นวันอันสดใส
ขอทุกก้าวคือก้าวที่มั่นใจ
ขอวันใหม่ก้าวไกลไปกว่าเดิม
วันที่เหนื่อยหน่ายอ่อนล้า
ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครคนไหน
ลองนึกย้อนถึงความอาทรห่วงใย
กับความสนุกสดใสที่ผ่านมา
ทางข้างหน้าลางเลือนเหมือนว่างเปล่า
แดดจะเผาผิวผ่อง เธอหมองไหม้
ที่ตรงนั้นมีหุบเหว มีเปลวไฟ
ถ้าอ่อนแอจะฝ่าไป อย่างไรกัน
อุปสรรคเข้าเผชิญจงเดินสู้
ยอมรับรู้ด้วยใจที่อาจหาญ
ตรึงและตรองแก้ไขอย่านิ่งนาน
รีบประสานเข้มแข็งด้วยแรงใจ
ลมหายใจมีไว้ให้ความหวัง
สร้างพลังดวงจิตอย่าคิดถอย
อย่าอยู่อย่างชีวิตที่เลื่อนลอย
โหยละห้อยเสียกาลและเวลา
บทพิสูจน์ความแกร่ง แห่งเพชรแท้
ความแน่วแน่ที่จะไป ให้ถึงฝัน
จะย่อท้อหวั่นไหว ทำไมกัน
หวังและวันแห่งเส้นชัย ไม่ไกลเกิน
อุปสรรคแค่ไหน ก็ไม่หวั่น
คืนและวันจะโหดร้าย สักเพียงไหน
ร้อยและพัน ปัญหาจะฝ่าไป
เพียงมีเธอ ยิ้มให้ ที่ปลายทาง
แม้ไม่ได้ทุกอย่างที่หวังไว้
ก็มั่นใจในคุณค่ามหาศาล
หนึ่งส่วนจากเศษฝันเมื่อวันวาน
อาจสร้างงานเกียรติยศปรากฎไกล
อย่าเผลอกายให้ชายเขาเชยชม
เมื่อเขาสมดังหวังเขาผลักไส
ไล่เหมือนหมู เหมือนหมา อย่างสาใจ
เคยเห็นไหมในละคร สอนใจตน
อย่าเผลอใจให้ใครเขาง่ายนัก
เพราะความรักไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
ถ้าไม่อยากอยู่อย่างตายทั้งเป็น
จงมองเห็นคุณค่าของตัวเอง
ยามเจ้ามา เอาอะไร มาด้วยเจ้า
เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน
ยามเจ้าไป เจ้าจะ เอาอะไร
เจ้าก็ไป ตัวเปล่า เหมือนเจ้ามา